TISCO 4 โบรกแนะนำซื้อ เป้าเฉลี่ย 109 บาท Q1/67 กำไรลดลง 3.3%

TISCO 4 โบรกแนะนำซื้อ เป้าเฉลี่ย 109 บาท Q1/67 กำไรลดลง 3.3% NPL เพิ่มขึ้นแตะ 2.27% ขึ้น XD 24 เม.ย.นี้

.

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า ผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,733 ล้านบาท ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 สาเหตุมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยชะลอตัวลง ประกอบกับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) ที่เพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 0.5% ของสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับความเสี่ยงของลูกหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 20.9%


เตรียมขึ้น XD 24 เม.ย. และจ่ายปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 7.75 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่อัตรา 2 บาทต่อหุ้น จึงเสนอจ่ายปันผลงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 5.75 บาท


ภาพรวมรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 2.1% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโตได้ 5.4% ตามการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี ต้นทุนทางการเงินยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางของดอกเบี้ยในตลาด ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอ่อนตัวลง 5.5% เป็นผลมาจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัวท่ามกลางภาวะตลาดทุนที่ซบเซา ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่อ่อนตัวลงตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ที่ชะลอตัว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 0.8% ในขณะที่สำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.5% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) สำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 16.0% 


เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีจำนวน 235,218 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 0.2% จากสิ้นปี 2566 จากสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่และสินเชื่อ SME เป็นหลัก ประกอบกับสินเชื่อจำนำทะเบียน “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่ขยายตัวตามแผนการเปิดเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ ในขณะที่บริษัทเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องมาจากเศรษฐกิจไทยยังเปราะบางและคุณภาพลูกหนี้อ่อนแอลง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.27% ของสินเชื่อรวม อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงและตั้งสำรองอย่างรัดกุม มีระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 177.8%  

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 20.9% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.7% และ 2.1% ตามลำดับ 


บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด: DBSV

คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 118 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 2.2 เท่า ทั้งนี้แม้ว่า ปี 67 ยังมีความท้าทายจาก NPL ที่จะเพิ่มขึ้นทำให้ต้องตั้งสำรอง ECL สูงขึ้นต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นทำให้ NIM แคบลง รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่อาจจะอ่อนตัวแต่ธนาคารมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงขึ้นและยังคงจ่ายปันผลสูงได้ต่อเนื่องคาด DY ปีนี้ไว้ที่ 7.8% และยังคงมี ROE สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์  ที่มา: บทวิเคราะห์ ณ​ 18/04/67 


บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด: YUANTA

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่า TISCO ยังสามารถรักษาฐานกำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2566 ได้ และคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่ากังวล มีลูกหนี้ Stage 2 ลดลงต่อเนื่อง และมีนโยบายตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นมี Upside 10.8% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2567 ที่ 110 บาท และคาดจะให้ Div. Yield ปี 2567 อีก 7.6%จึงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลสูง  ที่มา: บทวิเคราะห์ ณ​ 18/04/67 


บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน): PST

แนะนำ “ทยอยซื้อ”  ยังคงประมาณการกำไรปี 67 ไว้ที่ 7.6 พันล้านบาท. เพิ่มขึ้น 3.6% y-y

และยังคงราคาพื้นฐาน 105 บาท อาจจะเหลือส่วนต่างไม่มาก แต่ TISCO มีปันผลน่าสนใจ โดยปี 66

ประกาศจ่าย 5.75 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 5.8%  ที่มา: บทวิเคราะห์ ณ​ 18/04/67 


บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด: TRINITY 

TISCO กําไร 1Q67 ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ก่อนหน้า สินเชื่อทรงตัว ส่วน NIM อ่อนตัวลงจากต้นทุนเงิน ฝากที่สูงขึ้นส่วนด้านรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารอ่อนตัวลงตามฤดูกาล ขณะที่กำไรจากเงินลงทุน ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสํารองหนี้ทรงตัว แต่ NPL สูงขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อ High Yield ทั้งนี้เรายังคงแนะนํา ซื้อที่ราคาเป้าหมาย 105 บาท Upside จากราคาเป้าหมายไม่สูง แต่ปันผลยังค่อนข้างจูงใจ ที่มา: บทวิเคราะห์ ณ​ 18/04/67 


ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยจากทั้ง 4 โบรกอยู่ที่ 109 บาท โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 99.75 บาท (ราคาปิด ณ 18 เม.ย. 2567)


#TISCO #กลุ่มทิสโก้ #บลฟิลลิป #บลทรีนีตี้ #บลหยวนต้า #บลดีบีเอส